โปรแกรมแนะนำเส้นทางจากมิลานจรดโรม ที่จะทำให้คุณมาอิตาลีครั้งเดียวเที่ยวได้ครบทุกไฮไลท์ตั้งแต่เมืองใหญ่ไปจนหมู่บ้านเล็ก
จำนวนวันทัวร์ : 8 คืน 9 วันเต็ม (ไม่รวมวันบิน)
สนามบินขาเข้า/ช่วงเวลาไฟลท์เข้า : Milan Malpensa Airport หรือ Milan Linate Airport/ไฟลท์ขาเข้าช่วงเช้าไม่ควรเกินแปดโมงครึ่ง
สนามบินขาออก/ช่วงเวลาไฟลท์ออก : Rome Fiumicino Airport /ไฟลท์ออกช่วงหลังเที่ยงเป็นต้นไป
เส้นทาง : Milan – Como Lake: Bellagio และ Varenna – Venice – Verona – Garda Lake: Sirmione – La Spezia – (Cinque Terre: Monterosso – Vernazza – Corniglia – Manarola – Riomaggiore) – Pisa – Florence – San Gimignano – Siena – Montepulciano – Civita di Bagnoreggio – Rome
รายละเอียดโปรแกรมการเดินทาง
วันที่ 1 : Milan – Bellagio – Varenna – Venice
ค้างคืนที่ : Venice Mestre หรือ Venice Island
รถพร้อมคนขับและหัวหน้าทัวร์คนไทยในอิตาลีรอต้อนรับทุกท่านที่สนามบินมาลเป็นซ่า (Malpensa Airport) หรือที่สนามบินลีนาเต้ (Linate Airport) หรือจากที่พักในเมืองมิลาน (Milan City) ตามเวลานัดหมายเพื่อเริ่มต้นการเดินทาง
⏰ ช่วงเช้า: เริ่มออกเดินทางจากจุดนัดแรกพบตามตกลง มุ่งหน้าทะเลสาปโคโม๊ะ (Como Lake) ที่ได้รับสมญานามให้เป็นราชินีแห่งทะเลสาป (Queen of the Lake) โดยทะเลสาปโคโม๊ะแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของอิตาลี มีขนาดเล็กรองลงมาจากทะเลสตาปการ์ด้า (Garda Lake) และทะเลสาปมัจโจเร่ (Maggiore Lake) และนอกจากขนาดความใหญ่แล้ว ทะเลสาปโคโม๊ะยังสามารถวัดจุดที่ลึกที่สุดของทะเลสาปได้ถึง 400 เมตร และด้วยเหตุนี้ทะเลสาปแห่งนี้จึงถูกจัดให้เป็นทะเลสาปที่ลึกที่สุดในอิตาลีและอันดับ 5 ของทะเลสาปในยุโรป จากเหนือจรดใต้ของทะเลสาปจะมีหมู่บ้านเล็กๆซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม บ้านพักตากอากาศ ตลอดจนวิลล่าริมทะเลสาปส่วนตัวของคนมีชื่อเสียงตั้งอยู่กระจายโดยรอบทะเลสาป
ช่วงเช้าแวะเยี่ยมชมหมู่บ้านไฮไลท์ริมทะเลสาปโคโม๊ะกันที่หมู่บ้านวาเรนน่า (Varenna) จากนั้นเดินทางข้ามทะเลสาปโคโม๊ะด้วยเรือเฟอร์รี่จากหมู่บ้านวาเรนน่าไปเที่ยวกันต่อที่หมู่บ้านเบลลาจโจ้ (Bellagio)
⏰ ช่วงบ่าย: นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน แวะเดินเล่น ช็อปปิ้ง เยี่ยมชมไฮไลท์แลนด์มาร์คสัญลักษณ์คู่เมืองมิลานที่ดูโอโม่แห่งมิลาน (Duomo di Milano) โบสถ์หินอ่อนสีขาวอมชมพูสไตล์โกธิคที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่า 500 ปี ตัวโบสถ์ประกอบไปด้วยยอดหลังคาทรงแหลมคล้ายกับเม่นถึง 134 ยอด ณ บริเวณกลางยอดหลังคาที่สูงที่สุดเป็นที่ตั้งรูปปั้นพระแม่มารีที่สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์สูงถึง 4 เมต ยืนสูงเด่นคู่เมือง จากนั้นเยี่ยมชมกันต่อที่แกลเลอร์เรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Galleria Vittorio Emmanuele II) แกลเลอร์เรียที่ตั้งร้านสินค้าแบรนด์เนมตลอดจนร้านอาหาร บาร์กาแฟเก่าแก่ของเมือง ภายในมีความสวยงามจากโครงเหล็กและกระจกที่ทำเป็นหลังคาทรงโดมจนได้รับสมญานามให้เป็นดั่งห้องนั่งเล่นราคาแพงแห่งเมืองมิลาน ต่อจากนั้นนำทุกท่านชมปราสาทเก่าแก่อายุกว่า 600 ปีกันที่ปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Castello Sforzesco)
⏰ ช่วงเย็น: นำทุกท่านเดินทางเข้าที่พักที่เวนีส (Venice) หรือเวนีส เมสเตร้ (Venice Mestre)
วันที่ 2 : Venice – Murano – Burano
ค้างคืนที่ : Venice Mestre (ฝั่ง) หรือ Venice Mestre (เกาะ)
⏰ ช่วงเช้า: นำท่านเดินทางด้วยเรือวาโปเร็ตโต้ (Vaporetto) มุ่งหน้าเกาะมูราโน่ (Murano) เพื่อเยี่ยมชมเกาะต้นกำเนิดแก้วเป่ามูราโน่ที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวสามารถชมสาธิตการทำแก้วเป่าและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แก้วเป่าแฮนด์เมดได้ตรงจากโรงงาน จากนั้นเดินทางต่อด้วยเรือวาโปเร็ตโต้เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมเกาะบูราโน่ (Burano) ที่ตั้งหมู่บ้านชาวประมงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสสะดุดตา
⏰ ช่วงบ่าย: เดินทางออกจากเกาะบูราโน่ (Burano) กลับสู่เกาะเวนีส (Venice) ด้วยเรือวาโปเร็ตโต้เพื่อเยี่ยมชมเกาะเวนีสที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยที่ล้อมรอบด้วยสายน้ำและเชื่อมต่อกันด้วยสะพานถึง 117 เกาะ แวะชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆแห่งเกาะเวนีสตั้งแต่ จตุรัสเซ็นต์มาร์ค (Saint Mark’s Square), โบสถ์เซนต์มาร์ค (Saint Mark’s Basilica), หอระฆัง (Bell Tower), พระราชวังดอร์จ (Doge’s Palace), สะพานถอนหายใจ (Bridge of Signe), สะพานรีอัลโต้ (Rialto Bridge), สะพานอะคาเดเมีย (Academia Bridge), แกรนด์คาเนล (Grand Canal), โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเตะ (Basilica Santa Maria Della Salute) ตลอดจนคลองเล็กคลองน้อยที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำอันเป็นเอกลักษณ์แห่งเกาะเวนีส
⏰ ช่วงเย็น: นำท่านกลับเข้าที่พักที่เวนีส (Venice) หรือที่เวนีส เมสเตร้ (Venice Mestre)
วันที่ 3 : Venice – Verona – Sirmione – La Spezia
ค้างคืนที่ : La Spezia
⏰ ช่วงเช้า: ออกเดินทางออกจากเวนีส (Venice) มุ่งหน้าสู่เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองสีพาสเทลต้นกำเนิดแห่งตำนานรักโรมิโอและจูเลียตบทประพันธ์ก้องโลกของเชคสเปียร์ นำท่านเยี่ยมชมจตุรัสบรา (Piazza Bra) ที่ตั้งของอารีน่าแห่งเวโรน่า (Arena di Verona) ซึ่งเป็นแอมป์พลิเธียร์เตอร์กลางแจ้งโบราณขนาดใหญ่ที่ถูกก่อสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษแรกๆ และยังคงใช้จัดงานแสดงคอนเสิร์ต ละครโอเปร่า และกิจกรรมอื่นๆมาจนถึงปัจจุบันนี้ จากนั้นไปเที่ยวชมกันต่อที่บ้านจูเลียต (Casa di Giulietta) ที่ตั้งของระเบียงรักตามตำนานรักโรมีโอกับจูเลียต ต่อมาไปแวะชมกันต่อที่จตุรัสแอรเบ้ (Piazza delle Erbe) จตุรัสอันเป็นแหล่งนัดพบสำคัญที่อดีตจนถึงปัจจบันใช้เป็นตลาดกลางแจ้งขนาดย่อม และท้ายสุดแวะชมปราสาทเก่าแก่ที่อดีตเคยเป็นเรสซิเด้นที่พักของผู้ครองเมืองเวโรน่ากันที่คาสเต็ลโล่เวคคิ (Castelvecchio)
⏰ ช่วงบ่าย: นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาปการ์ด้า (Garda Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี แวะเที่ยวกันที่หมู่บ้านซีร์มิโอเน่ (Sirmione) หนึ่งในหมู่บ้านไฮไลท์ที่ตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นเข้าสู่ทะเลสาปการ์ด้าทางตอนใต้ แวะชมปราสาทสกาลิเจโร่ (Scaligero Castel) อันเป็นปราสาทเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 13 ท่านสามารถชมวิว 360 องศา ของทั้งหมู่บ้านซีร์มิโอเน่ที่ทอดตัวยาวเป็นแหลมยื่นเข้าสู่ทะลสาปการ์ด้าได้อย่างชัดเจนจากทางด้านบนสุดของหอคอยของปราสาทแห่งนี้
⏰ ช่วงเย็น: เดินทางเข้าสู่ที่พักที่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia)
วันที่ 4 : La Spezia – Cinque Terre: Monterosso – Vernazza – Corniglia – Manarola – Riomaggiore
ค้างคืนที่ : La Spezia
⏰ ช่วงเช้า: นำท่านเดินทางด้วยรถไฟสู่หมู่บ้านมรดกโลกและอุทยานแห่งชาติชิงเคว่ แตเร่ (Cinque Terre) ช่วงเช้าเริ่มแวะเที่ยวที่หมู่บ้านโมนเต้โรสโซ่ (Monterosso) หมู่บ้านหนึ่งเดียวที่มีหาดทรายให้นักท่องเที่ยวได้นอนอาบแดดและเล่นน้ำทะเล จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถไฟไปแวะเที่ยวกันต่อที่หมู่บ้านแวร์นาซซ่า (Vernazza) นำท่านชมวิวของหมู่บ้านแวร์นาซซ่าแบบ 360 องศาทั้ง 2 จุด
⏰ ช่วงบ่าย: นำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟไปแวะเที่ยวต่อกันที่หมู่บ้านคอร์นิญ่า (Corniglia) ที่ซึ่งเป็นหมู่บ้านหนึ่งเดียวที่ไม่มีท่าเทียบเรือเนื่องจากตัวหมู่บ้านนั้นตั้งอยู่บนยอดเขา ต่อจากนั้นเริ่มออกเดินทางต่อไปเยี่ยมชมหมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) เดินเล่นและแวะถ่ายรูปที่จุดชมวิวของที่นี่ หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปแวะเที่ยวกันที่หมู่บ้านสุดท้ายของ ชิงเควา แตเร่ กันที่หมู่บ้านรีโอมัจโจเร่ (Riomaggiore)
⏰ ช่วงเย็น: นำท่านเข้าที่พักที่ La Spezia หรือที่หนึ่งในหมู่บ้านแห่งอุทยานแห่งชาติชิงเคว่ แตเร่ (Cinque Terre)
วันที่ 5 : La Spezia – Pisa – The Mall Outlet – Florence
ค้างคืนที่ : Florence
⏰ ช่วงเช้า: นำท่านออกเดินทางจาก ลา สเปเซีย (La Spezia) มุ่งหน้าเมืองปิซ่า (Pisa) เพื่อแวะเยี่ยมชมจตุรัสมิราเคิล (Miracle Squae) ที่ตั้งของโบสถ์ดูโอโม่แห่งปิซ่า (Duomo di Pisa), หอบัพติส (Baptistery), สุสานคัมโปซานโต (Cmaposanto Cemetary) และไฮไลท์ของเมืองหอเอนแห่งเมืองปิซ่า (The Leaning Tower of Pisa) ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เพื่อเป็นหอระฆัง มีโครงสร้างทำด้วยหินอ่อนสีขาวสูง 60 เมตร ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่าจะแล้วเสร็จราว 200 ปี ปัจจุบันกลายเป็นมรดกโลกและเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหรรศจรรย์ของโลก เนื่องมาจากการก่อสร้างที่ผิดพลาดที่ทำให้ตัวหอเอนลงแต่ไม่ล้มพังทลายลงมา ในปัจจุบันหอเอนนั้นเอนไปราว 10 องศาซึ่งสามารถวัดความยาวระหว่างฐานและยอดของหอเอนได้ถึง 4 เมตร
⏰ ช่วงบ่าย: นำท่านมุ่งหน้าไปช็อปปิ้งกันที่เดอะมอล เอ้าท์เล็ท (The Mall Outlet) แหล่งรวมร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมชั้นเช่น Prada, Armani, Gucci, Fendi, TODS, Burburry…และแบรนด์อื่นๆรวม 35 แบรนด์ให้เลือกช็อปปิ้งกันอย่างจุใจในราคาเอ้าท์เล็ท
⏰ ช่วงเย็น: นำท่านเดินทางสู่ที่พักในเมืองฟลอเรนส์ (Florence) และพาชมวิวเมืองฟลอเรนส์ยามเย็นกันที่จตุรัสไมเคิลแองเจโล่ (Piazz Michaelangelo)
วันที่ 6 : Florence – San Gimignano – Siena
ค้างคืนที่ : Siena
⏰ ช่วงเช้า: นำท่านเยี่ยมชมไฮไลท์แลนด์มาร์คแห่งเมืองฟลอเรนส์ (Florence) ย้อนอดีตไปสัมผัสบรรยากาศในยุคเรอเนสซองส์อันรุ่งเรืองและร่ำรวยด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับความเป็นอยู่ในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว แวะชมพระราชวังปิตตี้ (Palazzo Pitti), สะพานเก่าโปนเต้ เวคคิโอ้ (Ponte Vecchio) ที่พาดผ่านแม่น้ำอาร์โนลด์ (Arnold River), อาคารพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี (Galleria degli Uffizi), จตุรัสซินญอเรีย (Piazza della Signoria), โบสถ์ซานตา มาเรีย เดล ฟีโอเร่ (Cattedrale Santa Maria del Fiore), จตุรัสรีพลับบิก้า (Piazza della Repubblica) และจตุรัสซานตามาเรียโนเวลล่า (Piazza Santa Maria Novella)
⏰ ช่วงบ่าย: นำท่านเดินทางสู่เมืองซาน จิมิญญาโน่ (San Gimignano) เมืองแห่งหอคอยโบราณในยุคเมดิเอวัลที่ได้รับสมญานามให้เป็นเมืองแห่งหอคอยสมบูรณ์แบบ (The Town of Fine Towers) ภายในกำแพงเมืองโบราณเล็กๆที่ถูกโอบล้อมด้วยทุ่งและเนินเขาเกษตรกรรมทัสคานีแห่งนี้เคยมีหอคอยมากถึง 72 แห่งในอดีต และด้วยเวลาและเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านไปทำให้ในปัจจุบันนี้มีหอคอยจากอดีตที่มีสภาพสมบูรณ์เหลือเพียง 14 แห่งที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองขีดสุดแห่งเมืองนี้
⏰ ช่วงเย็น:
วันที่ 7 : Siena – Montepulciano – Civita di Bagnoreggio – Rome
ค้างคืนที่ : Rome
⏰ ช่วงเช้า: เที่ยวเก็บตกเมืองซีเอน่าในกรณีที่ไม่ได้ชมจากวันก่อนหน้า หลังจากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่เมืองโมนเต้ปูลชาโน่ (Montepulciano) โดยใช้เส้นทางวาล์วดอร์เชีย (Val D’Orcia) ที่สามารถจอดรถสัมผัสบรรยากาศและเก็บภาพเนินเขาแห่งทุ่งทัสคานีที่สลับซับซ้อนกันไปได้ตลอดสองข้างทาง เมืองโมนเต้ปูลชาโน่เป็นเมืองโบราณในยุคเดิเอวัลที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแหล่งผลิตไวน์โมนเต้ปูลชาโน่ที่มีมีชื่อเสียงโด่งดัง ภายในเมืองมีร้านอาหารพื้นเมืองที่ภายในมีคานติน่า (Cantina) ซึ่งเป็นดั่งห้องเก็บไวน์และผลิตภัณฑ์ซาลูมี่โบราณ ให้ชมมากมาย ด้วยเอกลักษณ์ความงามที่โดดเด่นเมืองนี้จึงถูกเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ทไวไลท์ (Twilight) ในภาค New Moon ด้วย
⏰ ช่วงบ่าย: นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองชีวิต้า ดิ บาญโญ่เรจโจ้ (Civita di Bagnoregio) เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองที่กำลังจะสลาย (The that is dying) เมืองนี้ถูกจัดเป็น Unseen ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากการที่ตัวเมืองตั้งอยู่บนยอดเนินเขาที่มีลักษณะเป็นเกาะสูงชันอันโดดเดี่ยวอันเกิดจากจากการพังทลายของชั้นดิน วิธีเดียวที่จะเข้าถึงเมืองนี้ได้คือการเดินเท้าขึ้นไปตามทางลาดเล็กๆหนึ่งเดียวที่สร้างเชื่อมตัวเมืองกับที่ราบภาคพื้นไว้เท่านั้น
⏰ ช่วงเย็น: นำท่านเดินทางต่อเข้าที่พักที่กรุงโรม (Rome) และพาท่านขึ้นไปจุดชมเมืองเพื่อชมวิว 360 องศาของกรุงโรม และแวะเยี่ยมชมปราสาทเซ็นต์แองเจโล่ (Castel’s Sant’Angelo), จตุรัสโปโปโล่ (Piazza del Popolo), บันไดสเปน (Spanish Steps)
วันที่ 8 : Rome
ค้างคืนที่ : Rome
⏰ ช่วงเช้า – เย็น: นำทุกท่านตะลุยเที่ยวกรุงโรมแบบเต็มวัน แวะเยี่ยมชมโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์แห่งนครวาติกัน (Basilica St. Peter in Vatican City), โคลอสเซียม (Colosseum), โรมันฟอรัม (Roman Forum) น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain), แพนเทออน (Pantheon), จตุรัสนาโวนา (Piazza Navona), แคปปิโตลิเน่ฮิล (Capitoline Hill), อนุสรณ์สถานวิคตอเรียโน่ ณ จตุรัสเวเนเซีย (Vittoriano Monumentทin Piazza Venezia), ลานประลองเซอร์คัสแม็คซิมุส (Circus Maximus)
วันที่ 9 : Rome (Hotel) – Rome Fiumicino Airport
ทรานซ์เฟอร์จากโรงแรมที่พักในโรม เดินทางมุ่งหน้าสนามบินแห่งกรุงโรม นำท่านเช็คอินกับสายการบินและทำคืนภาษี (Tax Refund) กับเคาเตอร์ Global Blue, Premier Tax Free และ Tax Refund จนกว่าจะเสร็จทุกขั้นตอน สิ้นสุดการเดินทางด้วยการส่งทุกท่านเดินทางกลับบ้านหรือเดินทางไปเที่ยวต่อด้วยความสุขและความปลอดภัยที่บริเวณด้านหน้าประตูรักษาความปลอดภัย (Security Gate) ของสนามบิน
ขอขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงที่ให้โอกาสและความไว้วางใจให้พวกเราดูแลการเดินทางของทุกๆท่านมา ณ ที่นี้
อัตราค่าบริการ
7,650€
ลูกค้าสามารถหารค่าบริการจำนวนนี้กันได้สูงสุดที่ 6 ท่าน ยิ่งเดินทางหลายท่านค่าบริการต่อท่านยิ่งถูกลงตามลำดับดังนี้
เดินทาง 6 ท่าน ค่าบริการท่านละ 1,275 €
เดินทาง 5 ท่าน ค่าบริการท่านละ 1,530 €
เดินทาง 4 ท่าน ค่าบริการท่านละ 1,912,50 €
เดินทาง 3 ท่าน ค่าบริการท่านละ 2,550 €
เดินทาง 2 ท่าน ค่าบริการท่านละ 3,825 €
เดินทาง 1 ท่าน ค่าบริการท่านละ 7,650 €
หากต้องการเดินทางมากกว่า 6 ท่าน หรือต้องการใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับโดยไม่รวมบริการหัวหน้าทัวร์คนไทยกรุณาติดต่อสอบถามอัตราค่าบริการเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่>>>
สิ่งที่รวมไว้ในบริการ
รถตู้ Mercedes Benz V-Class Extra Long 8 ที่นั่ง
คนขับชาวอิตาเลี่ยนดูแลเส้นทางและกระเป๋าสัมภาระ สิ่งของมีค่าของลูกค้า
หัวหน้าทัวร์ชาวไทยในอิตาลี ดูแลอำนวยความสะดวก พาเที่ยวและให้คำแนะนำตลอดทาง
น้ำมัน
ทางหลวง
ที่จอดรถ
ที่พักและอาหารของคนขับและหัวหน้าทัวร์
ฟรีน้ำดื่มสำหรับลูกค้า 2 ขวด:ท่าน:วัน
สิ่งที่ไม่รวมไว้ในค่าบริการ
อาหารกลางวัน-เย็น ของลูกค้า ลูกค้าสามารถเลือกทานได้อย่างอิสระ แต่ถ้าไม่มีไอเดียว่าจะทานที่ไหนดี? พวกเรามีรายการร้านอาหารดีๆราคาสมเหตุสมผลแนะนำให้ ลูกค้าสามารถเลือกทานได้ตามความต้องการ ชำระตามอัตราจริงในสิ่งที่ตนเองเลือกทานได้โดยตรงกับทางร้านนั้นๆ
ค่าธรรมเนียมบัตรผ่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ต่างๆที่มีการเรียกเก็บทั้งของลูกค้า และหัวหน้าทัวร์ ลูกค้าสามารถเลือกชำระหน้างานในสิ่งที่สนใจเป็นครั้งๆไป (ในกรณีที่ลูกค้าต้องการให้หัวหน้าทัวร์ติดตามดูแลด้านในของสถานที่ต่างๆลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มหน้างานให้หัวหน้ามทัวร์)
ค่าธรรมเนียมโดยสารอื่นๆเช่น รถไฟ กระเช้าขึ้นเขา หรือเรือโดยสาร ทั้งของลูกค้าและหัวหน้าทัวร์ ลูกค้าสามารถเลือกชำระหน้างานเป็นครั้งๆไป (ในกรณีที่ลูกค้าต้องการให้หัวหน้าทัวร์เดินทางไปดูแลด้วย ลูกค้าชำระเพิ่มให้หัวหน้าทัวร์)
ค่าที่พักของลูกค้า
ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าประกันการเดินทาง ตลอดจนค่าธรรมเนียมวีซ่าของลูกค้า
จุดเด่นของบริการ
📌 สามารถแวะเที่ยวได้มากกว่าภายในเวลา 1 วัน
📌 สะดวกปลอดภัยมากกว่าบริการแบบ Guide Driver ที่หนึ่งคนทำงานสองหน้าที่ทั้งดูแลเส้นทางและดูแลลูกทัวร์ แต่พวกเราทำงานกันเป็นทีม 2 คน แยกหน้าที่รับผิดชอบกันอย่างชัดเจน โดยคนขับดูแลเส้นทางกับสัมภาระและหัวหน้าทัวร์คนไทยในอิตาลีดูแลลูกค้าพาเดินเที่ยวทันทีที่เดินทางถึงไซต์ท่องเที่ยว
📌 ไม่ต้องเสี่ยงกับค่าปรับจากการฝ่าฝืนขับรถเข้าพื้นที่จำกัดจราจร ZTL (Zona Traffico Limitato) จากการขับรถเที่ยวด้วยตนเอง
📌 ยืดหยุ่นเรื่องเวลาไม่มีการชาร์จใดๆเพิ่มภายหลัง
วิธีการจองและการชำระค่าบริการ
สอบถาม-เช็คคิวว่างเพื่อจองคิวบริการจากพวกเราผ่านหลายช่องทางได้ ดังนี้
- ผ่าน Line ID: farfalla_lulla (วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วที่สุด)
- ผ่าน FB Page’s Inbox
- ผ่าน e-mail: n_napassakarn@hotmail.com
- ผ่านกล่องข้อความของเว็บไซต์ด้านล่างนี้
อ่านรายละเอียดขั้นตอนการจองและการชำระเงิน คลิ๊กที่นี่